นโยบายของบ้านยินดี
เด็กทุกคนจะได้รับการเลี้ยงดูให้เติบโต โดยการมีครอบครัวทดแทนให้เขาเติบโตในบรรยากาศที่อบอุ่นและเต็มเปี่ยมด้วยความรัก จนเขาได้รับการศึกษาจนสามารถออกไปประกอบอาชีพและเลี้ยงดูตัวเองได้ มีพัฒนาการทั้ง 5 ด้าน ได้แก่
1). ด้านร่างกาย
เด็กๆและพ่อแม่ที่บ้านยินดี เด็กทุกคนมีพ่อแม่ เลี้ยงดูด้วยความรักและความอบอุ่นพร้อมรับลูกทุกคนให้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโดยไม่มีเงื่อนไข ก่อให้เกิดความสัมพันธ์อันแนบแน่น มั่นคง ระหว่างพ่อแม่และลูกๆทุกคน เด็กชายหญิงต่างวัยที่อาศัยอยู่ในบ้าน มีความสัมพันธ์เป็นพี่น้อง เป็นครอบครัวเดียวกัน เด็กทุกคนมีความปลอดภัย มีอาหารการกินครบ 5 หมู่ มีเครื่องนุ่งห่ม และสุขภาพอนามัยร่างกายที่ดี โดยการรับวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ และตรวจสุขภาพเป็นประจำ
2). ด้านสังคม
บ้านยินดีตั้งอยู่ในเขตชุมชนหมู่บ้านแพะวังขุมเงิน ซึ่งเป็นชุมชนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พึ่งพาอาศัยกัน มีความรัก ความสามัคคีต่อชุมชนท้องถิ่น เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและหมู่บ้าน
3). ด้านการศึกษา
การศึกษาเป็นความสำคัญสิ่งหนึ่งที่เด็กควรได้รับจึงต้องปลูกฝังให้เห็นความสำคัญในการศึกษา มีการจัดการ การเรียน การสอนตามกลุ่มอายุ
3.1).ชั้นประถมศึกษา
เด็กวัย 6 - 7 ปีเข้าโรงเรียนรัฐบาล โดยเด็กจะใช้เวลาในการเรียนรู้วิชาต่างๆกับเด็กทั่วไป เรียนรู้ทั้งการ อ่าน เขียน ภาษาไทย อังกฤษ และวิชาการเรียนรู้อื่นๆ
3.2).ชั้นมัธยมศึกษา
หลังจากเด็กจบชั้นประถมศึกษาพวกเขาจะได้เรียนอีก 6 ปี เพื่อเตรียมเข้าสู่การงานอาชีพในอนาคต เมื่อจบมัธยมศึกษาปีที่3 ก็เข้าสู่สายอาชีพได้ หรือ เรียนต่อในสายสามัญให้จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อเข้าสู่รั้วมหาลัยต่อไป
เป้าหมายเบื้องต้น เด็กๆสามารถเรียนจนจบระดับมัธยมปลาย (ม.6)
4). ด้านจิตใจ
เด็กที่ขาดความอบอุ่น การเอาใจใส่ มีความบอบช้ำและปวดร้าวภายในจิตใจ หากไม่ได้รับการเยียวยารักษา เขาจะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ก้าวร้าว เห็นแก่ตัว เอารัดเอาเปรียบ เพราะภายในจิตใจเขายังไม่เคยได้รับความรักและความอบอุ่นอย่างแท้จริง จึงจำเป็นต้องดูแลพวกเขาในด้านจิตใจตั้งแต่เป็นเด็ก
5). ด้านจิตวิญญาณ
ในด้านจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกคนมีมโนธรรมหรือจิตสำนึก ส่วนนี้สำคัญที่สุดจำเป็นที่เด็กทุกคน ต้องมีความรัก มีศิลธรรม ความยุติธรรม เมื่อเขายังเด็กอยู่ เหมือนสุภาษิตที่ว่า "ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"